ลงทุนบิทคอยน์ เล่นบิทคอยน์ ปี 2564 มีทิศทางและแนวโน้มอย่างไรบ้าง? (Investing Bitcoins in 2021) - ลงทุนบิทคอยน์ (Bitcoins) ให้มีกำไร ปลอดภัย เข้าใจความเสี่ยง

ลงทุนบิทคอยน์ปลอดภัย มีกำไร เข้าใจความเสี่ยง
ดูสารบัญเนื้อหา | เทรดบิทคอยน์กับ BitKub | เทรดบิทคอยน์กับ Bitazza

ลงทุนบิทคอยน์ เล่นบิทคอยน์ ปี 2564 มีทิศทางและแนวโน้มอย่างไรบ้าง? (Investing Bitcoins in 2021)

สวัสดีท่านผู้อ่านไทยเทรดบีทีซี (ThaiTradeBTC.com) ทุกท่านนะครับ นี่ก็ใกล้จะสิ้นปี 2563 หรือ คศ.2020 กันแล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในแวดวงการเงินมากมาย ซึ่งมีสัญญาณที่น่าสนใจว่าบิทคอยน์ รวมไปถึง Crypto Currency อาจจะเติบโตมากขึ้นในปี 2564 หรือ คศ. 2020

ย้อนกลับไปที่มาของการสร้างบิทคอยน์คือการล่มสลายทางเศรษฐกิจแล้วอเมริกาแก้ปัญหาโดยการพิมพ์เงินดอลล่าห์ออกมาอย่างไม่จำกัด เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้กลไกเศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว ข้าวของราคาแพงสูงขึ้น อำนาจในการซื้อของเงินลดลง เงินล้านบาทเมื่อสิบปีที่แล้วมีมูลค่ามาก ในขณะที่ปัจจุบันเงินล้านบาท ยังซื้อบ้านไม่ได้เลย แสดงให้เห็นถึงอำนาจในการซื้อลดลง คนออมเงินคือผู้แพ้ เพราะเงินที่ออมแม้จะมีมูลค่าเท่าเดิม แต่อำนาจในการซื้อลดลง

บิทคอยน์จึงถูกสร้างขึ้นมา โดยชุดคำสั่งหรือสมการทางคณิตศาสตร์ ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการถอดรหัสออกมา ใครคือผู้ถอดรหัสแก้สมการได้ก่อน ผู้นั้นก็ได้รับบิทคอยน์ไปเป็นการตอบแทน และที่สำคัญมันจะมีแค่ 21 ล้านบิทคอยน์เท่านั้น ไม่สามารถพิมพ์หรือปั้มออกมาได้ไม่จำกัด แบบแบงค์ดอลล่าห์ หรือสกุลเงินที่รัฐต่างๆกำลังใช้ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่เคยมีเงินในสกุลไหนอยู่ยืนยง ยิ่งปั้มเงินออกมาเท่าไหร่เงินก็ไร้ค่าไม่ต่างกับเศษกระดาษ

ในปี 2020 หรือปี 2563 นี้เราได้เห็นถึงความโกลาหลของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า โรคระบาด Covid-19 และปัญหาการเมืองต่างๆ ตลาดทุนของโลกทั้งหุ้น พันธบัตร ตลาดซื้อขายล่วงหน้า ปั่นป่วน อย่างไรก็ตามท่ามกลางความโกลาหลของโลก ก็ทำให้ทองราคาพุ่งเกือบ 30,000 บาทไทยต่อนำ้หนักทอง 1 บาท หรือว่าในขณะที่เขียนบทความนี้บิทคอยน์เองก็ราคาเกือบ 500,000 บาทต่อบิทคอยน์แล้ว

ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ยิ่งเศรษฐกิจของโลกใกล้พังทลายลงเมื่อไหร่ ตลาดหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ก็พร้อมจะพินาศพร้อมกับเศรษฐกิจ ในขณะที่ทองคำ บิทคอยน์ กลับราคาเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับเศรษฐกิจอย่างชัดเจน

หลังจากได้เกริ่นมาสักพักใหญ่ๆแล้ว จะขอพูดถึงข่าวที่น่าสนใจรอบปี 2563 นี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาด Crypto Currency กันนะครับ

1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จับมือกับ กสิกรบิสซิเนสเทคโนโลยีกรุ๊ป (Kasikorn Business Technology Group (KBTG) เพื่อทำกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิตอล (Digital Asset Exchange), กระเป๋าเงินดิจิตอล (Digital wallet) และศูนย์ซื้อขายเหรียญ ICO (ICO Portal) ซึ่งแน่นอนว่าต่อไปเราอาจจะได้ซื้อขาย Crypto Currency ที่เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิตอล (Digital Asset) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเร็ววันก็ได้ ซึ่งจะมีความปลอดภัยที่มากกว่า และอาจจะได้รับการคุ้มครองที่มากกว่าการเทรดกับโบรกเกอร์เอกชนทั่วไปก็ได้

2. ธนาคารอันดับหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ (DBS) หลุดหน้าเว็บเพจของกระดานซื้อขาย Crypto Currency ซึ่งเป็นข่าวที่ค่อนข้างสำคัญ อย่างที่รู้กันว่าสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นชั้นนำด้านอุตสาหกรรมการเงินเลย ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีข้อมูลที่มากอยู่ในมือ การที่ธนาคารลงมาเล่นเอง มาทำกระดานเทรดเอง อาจมีนัยยะสำคัญ เช่น ธนาคารอาจจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าเงินในยุคนี้มันค่อนข้าง Flow กลยุทธ์เดิมๆอาจไม่ได้ผล เพราะคนเริ่มไม่ฝากเงิน แต่เริ่มถอนเงินออกไปลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเช่น Crypto Currency ซึ่งหากปล่อยไปเรื่อยๆแบบนี้อาจทำให้ธนาคารเจ๊ง เพราะไม่มีเงินหมุน (Bank runs) จึงจำใจต้องสร้างกระดานเทรดมา เพื่อไม่ให้เงินออกจากธนาคาร เพราะท้ายสุดหากธนาคารสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Crypto ได้ เงินก็จะไม่ออกจากธนาคาร ทำให้ธนาคารยังอยู่ต่อไปได้ท่ามกลางภาวะ Disruption ทั่วโลก

3. Paypal เปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อขาย Bitcoins ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตกใจเป็นอันมาก เพราะปกติแล้วคงไม่มีผู้นำทางการชำระเงินใดอยากให้สิ่งที่ควบคุมไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน แต่ก่อนการซื้อขาย Crypto เป็นสิ่งที่ Paypal ปฏิเสธและผิดนโยบายมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าทำไมเว็บบริการชำระเงินทั่วโลก ที่มีฐานข้อมูลลูกค้าเป็นพันล้านคน ถึงยอมเปิดรับให้ซื้อขาย Crypto Currency ได้ ซึ่งบริษัทระดับโลกอย่างนี้ คงไม่ได้ทำเล่นๆขำๆแน่นอน เขาต้องมีข้อมูล (Data) และทีมวิจัยที่ศึกษามาว่า Crypto น่าจะกระทบต่อการให้บริการของตัวเอง จึงได้ยอมผนวกบริการของตัวเองเข้ากับ Crypto Currency เพื่อไม่ให้บริการของตัวเองโดน Disrupt

จะเห็นได้ว่าบริษัทระดับโลก ธนาคารใหญ่ๆ เริ่มเข้ามาเล่นในตลาด Crypto Currency กันแล้ว ซึ่งสิ่งที่เราควรคิดต่อไปคือ บริษัทที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมายมหาศาล ทำไมเขาจึงต้องลงมาเล่น เขามีจุดประสงค์อะไร ซึ่งถ้าถามตัวแอดมินเอง มองว่าตอนนี้ตลาด Crypto ได้ถูกเหล่าธนาคาร บริษัท สถาบันการเงินควบคุมไว้แล้ว (Manipulated) ไม่มีใครอยากเล่นเกมส์ที่ตัวเองจะแพ้ เมื่อเขาควบคุมไว้แล้ว เราในฐานะนักลงทุนก็ต้องมองเห็นช่องว่างว่าตอนนี้ตลาดคริปโตยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การที่เราได้เรียนรู้เริ่มต้นก่อนย่อมได้เปรียบกว่าคนอื่น ในฐานะที่เราเป็นผู้รับรู้กลุ่มแรกๆ แต่ก็ต้องไม่ประมาท จะทำให้ก็ควรต้องศึกษาและตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อน เพราะนี่คือเกมส์การเงิน เมื่อมีผู้แพ้และก็ต้องมีผู้ชนะ จึงควรใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วย

ที่มา:  ข่าวกสิกรไทย, ข่าวธนาคารสิงคโปร์, ข่าว Paypal ตามลิงค์ข้างล้างครับ

bangkokpost.com/business/1997255/set-builds-integrated-trading-platform-with-kbtg
theblockcrypto.com/post/82411/singapore-biggest-bank-dbs-crypto-exchange
theverge.com/2020/11/12/21562771/paypal-cryptocurrency-buy-sell-bitcoin-ethereum-litecoin-us-users

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น